รักษาสิวอย่างไรให้กลับมาหน้าใสอีกครั้ง?

 “สิว”กวนใจคุณมานานแค่ไหนแล้วคะ? สิว...เรื่องใกล้ตัว แต่อาจทำให้คุณปวดหัวไม่มีวันจบสิ้น เรียกได้ว่าส่องกระจกทีไรปวดใจทุกที ทั้งสิวอักเสบ สิวผด สิวเสี้ยน สิวหัวดำ สิวหัวขาว หรือแม้แต่สิวหัวช้าง ดูเหมือนจะกลายมาเป็นศัตรูตัวฉกาจบดบังความงามบนใบหน้าสวยๆหล่อๆของคุณมายาวนาน แถมยังทิ้งร่องรอยเป็นจุดด่างดำไว้ให้ดูเล่นต่างหน้าอีกต่างหาก  

สิวเกิดจากอะไร? 

มีปัจจัยมากมายที่ทำให้เกิดสิว โดยจะขอแบ่งออกเป็น 2 ประการคือ 

1. ปัจจัยภายใน เช่น 

• การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายหรือที่เราเรียกกันง่ายๆว่าสิวฮอร์โมน โดยมากพบในเด็กวัยรุ่น ผู้หญิงที่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์ หรือช่วงก่อนมีประจำเดือน เป็นต้น 
• กรรมพันธุ์  
• การผลิตน้ำมันของต่อมไขมันในผิวที่มากเกินไป 
• ความเครียด ซึ่งจะกระตุ้นให้ต่อไขมันทำงานหนักขึ้น 

2. ปัจจัยภายนอก 

• การใช้ยาหรือสารเคมีบางชนิดที่มีส่วนทำให้เกิดสิว เช่นยากลุ่มสเตียรอยด์ เป็นต้น 
• การใช้เครื่องสำอางหรือการขัดหน้า นวดหน้าที่อาจทำให้ผิวระคายเคือง รวมถึงผลิตภัณฑ์ประเภทสเปรย์หรือเจลบำรุงผม 
• การดูแลผิวที่ไม่เหมาะสมกับสภาพผิวหน้า  
• อาหารที่กระตุ้นทำให้เกิดสิว 
• มลภาวะสิ่งแวดล้อม 

ประเภทของสิว และการรักษา 

 แม้สิวจะมีหลายชนิด แต่แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆตามลักษณะการอักเสบของผิวดังนี้ 

1. สิวประเภทที่ไม่อักเสบ หรือที่เรียกกันว่าสิวอุดตัน

เกิดจากการอุดตันของรูขุมขน หรือโคมีโดน(Comedones) สิวประเภทนี้มี 2 ลักษณะคือ 

• สิวหัวปิด หรือสิวหัวขาว(Whiteheads) เป็นตุ่มนูนๆที่ดันผิวขึ้นมา ไม่มีหัว บีบออกยากเพราะมีรากสิวที่ค่อนข้างลึก สิวประเภทนี้หากปล่อยไว้และไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง มีโอกาสกลายเป็นสิวอักเสบประเภทต่างๆได้ 
• สิวหัวเปิด หรือสิวหัวดำ(Blackheads) ซึ่งจุดสีดำเกิดจากน้ำมันในผิวทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ อย่างที่เราทราบว่าสิวประเภทนี้มีโอกาสพัฒนาเป็นสิวอักเสบได้สูงมาก หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง การรักษาโดยส่วนใหญ่จะใช้ยาที่ช่วยลดการอุดตันของสิวในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการระคายเคือง และมีการกดสิวร่วมด้วย 

2. สิวประเภทอักเสบ

โดยมากเกิดจากสิวหัวปิดที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง มีการอุดตันและติดเชื้อแบคทีเรียในบริเวณรูขุมขน สิวประเภทนี้มี 4 ลักษณะคือ 

• ตุ่มนูนแดงขนาดเล็ก(Papule) รักษาเบื้องต้นด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสูตรอ่อนโยน งดการสครับหน้าที่จะทำให้ผิวระคายเคือง 
•  สิวหัวหนอง(Pustule) เป็นสิวที่มีการอักเสบเนื่องจากการติดเชื้อแบคทีเรียอื่นๆแทรกซ้อน สิวประเภทนี้ควรรักษาร่วมกับการทำความสะอาดหน้าอย่างถูกวิธี งดการขัดผิว และควรใช้ยาแต้มสิวร่วมด้วยเพื่อลดการอักเสบ
•  ตุ่มแดงขนาดใหญ่(Nodule) ซึ่งอาจมีหลายหัวสิวอยู่ด้วยกัน มีลักษณะเป็นไตแข็งๆ เมื่อจับดูจะรู้สึกเจ็บ เนื่องจากใต้ผิวหนังมีแบคทีเรียรวมกับน้ำมันในชั้นใต้ผิวแตกกระจายอยู่ สิวชนิดนี้ จำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อขอคำแนะนำในการรักษาที่เหมาะสมต่อไป 
• สิวหัวช้าง(Cyst) เป็นตุ่มนูนแดงขนาดใหญ่ มีหนองปนเลือด สิวประเภทนี้หากรักษาไม่ถูกวิธีอาจเป็นแผลและเกิดหลุมสิวตามมาได้ง่าย ทางที่ดีควรขอคำแนะนำในการรักษาจากแพทย์จะดีกว่าค่ะ 

นอกจากประเภทของสิวที่กล่าวไปข้างต้น ยังมีสิวอีกกลุ่มหนึ่งที่สร้างความรำคาญใจให้หลายคน นั่นคือพวกสิวเทียม สิวผด สิวหิน(Acne Aestivale) ซึ่งมีลักษณะเป็นผดหรือตุ่มเล็กๆ ก้อนแข็งๆ ที่งอกขึ้นมาบนผิวหน้า ยิ่งถ้าวันไหนร้อนหรืออยู่กลางแดดนานๆ ตุ่มพวกนี้ยิ่งชัดขึ้น วิธีดูแลรักษาสำหรับสิวประเภทนี้คือเลี่ยงการตากแดดเป็นเวลานานๆ ดื่มน้ำมากๆ พักผ่อนให้เพียงพอ หากมีการอักเสบของผิวร่วมด้วย ควรเข้าพบแพทย์เพื่อรักษาอย่างถูกต้องต่อไปค่ะ 

การรักษาสิว 

ในปัจจุบันมีหลากหลายวิธีที่ใช้ในการรักษาสิว ซึ่งมีระยะเวลาที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสิวในเวลานั้น โดยคำนึงการรักษาที่เหมาะสม มีประสิทธิภาพสูงสุดแต่ให้ผลข้างเคียงน้อยที่สุด ดังนี้ 

1. ในรายที่อาการไม่รุนแรง สามารถใช้ยาประเภทยาละลายหัวสิว ยาฆ่าเชื้อหรือยาแก้อักเสบ เพื่อลดการอุดตันของสิว
2. ในรายที่ความรุนแรงของสิวมีมาก ยาที่ใช้ในการรักษาจะมี 3 กลุ่มใหญ่ๆคือยาแก้อักเสบ ยาคุมระดับฮอร์โมน และยากลุ่มเรตินอล ซึ่งแน่นอนว่าอาจมีผลข้างเคียงที่ตามมาแน่นอน ดังนั้นจึงแนะนำให้รับการรักษาภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ  

นอกจากนั้นอาจมีหัตถการการรักษาอื่นๆร่วมด้วย เช่น 

• การกดหรือฉีดสิว (Comedone extraction,Acne injection) ช่วยให้สิวยุบตัวลง 
• การใช้กรดผลไม้ผลัดเซลล์ผิว (Chemical peel) เพื่อลดการอักเสบและรอยแผลเป็น 
• การรักษาโดยใช้เลเซอร์ (Laser and Treatments) ช่วยลดการอักเสบและรอยแดงจากสิว 

เคล็ดลับดูแลผิวหน้าไม่ให้เป็นสิว 

หากการรักษาสิวคือการป้องกันไม่ให้สิวใหม่เกิดขึ้น ควบคู่กับการลดรอยดำที่เกิดขึ้นแล้ว การรู้ถึงสาเหตุการเกิดสิว รวมถึงปัจจัยต่างๆที่เกี่ยวข้อง จะทำให้เรามีความเข้าใจที่ถูกต้องในการดูแลผิวหน้าของตัวเองให้ห่างไกลจากสิวได้ด้วยนะคะ ซึ่งสามารถทำได้โดย 

1. หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดสิว พักผ่อนให้เพียงพอ ทำจิตใจให้แจ่มใส เลี่ยงอาหารประเภทของหวานของมัน ดื่มน้ำมากๆ เป็นต้น 
2. เลือกใช้เครื่องสำอางที่เหมาะสม ปลอดภัย และเหมาะกับสภาพผิวของเรา 
3. ล้างหน้าให้สะอาดด้วยวิธีการที่ถูกต้อง ก่อนล้างหน้าควรใช้คลีนซิ่งเช็ดหน้าก่อนเสมอ หลายคนเข้าใจว่าต้องล้างหน้าบ่อยๆ แต่ความจริงแล้วการล้างหน้าบ่อยๆอาจทำให้หน้าแห้งมากเกินไป นอกจากนั้นผิวหน้าจะมีการผลิตน้ำมันออกมามากขึ้นเพื่อปกป้องชั้นผิวของเรา แต่ถ้ามากเกินไปอาจทำให้เกิดสิวได้เช่นกันค่ะ 

ไอเท็มใหม่สำหรับคนเป็นสิว 

 นารดาคลินิกไม่เพียงให้บริการโปรแกรมรักษาสิว พร้อมบำรุงและฟื้นฟูผิวของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ เท่านั้น เรายังมีผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่ช่วยปรนนิบัติผิวหน้าของคุณได้ตรงจุด อย่างมาส์กชาเขียวสูตรพิเศษ เรียกได้ว่า “หน้าพังแค่ไหน มาส์กชาเขียวช่วยได้”

จากการศึกษาพบว่า ชาเขียวช่วยลดและยับยั้งแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดสิว ช่วยดีท็อกซ์ผิว ขจัดสารพิษและสิ่งสกปรกบนใบหน้า ช่วยรักษาอาการอักเสบของสิว ทำให้สิวยุบเร็วขึ้น ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ชะลอการร่วงโรยของผิว ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ และทำให้ผิวดูเรียบเนียนกระจ่างใส รูขุมขนกระชับ ลดความหมองคล้ำบนใบหน้า ไม่เพียงเนื้อครีมละเอียด นุ่ม มีกลิ่นหอมของชาเขียวเท่านั้น แต่ยังได้ผสมผสานคุณค่าจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน จนกลายมาเป็นเวชสำอางค์ชั้นเลิศที่ช่วยปรนนิบัติผิวของคุณให้สวยใสไร้สิวได้ค่ะ