เคยไหมคะที่เวลาถ่ายรูปออกมาแล้วรู้สึกว่าหน้าบาน หน้าใหญ่ หน้าอ้วน ดูไม่สวย ต้องพึ่งแอ๊ปหรือไม่ก็ต้องหลบมุมบิดซ้ายบิดขวาให้หน้าดูเรียวเล็กเป็นวีเชฟ ปัจจุบันนี้เรามีเทคโนโลยีทางการแพทย์ในการปรับรูปหน้าที่หลากหลาย ทั้งยังสามารถตอบโจทย์ของลูกค้าที่มีปัญหาแก้มเยอะ หน้าใหญ่ หน้าบาน ผิวหย่อนคล้อยให้กลับมามีรูปหน้าที่สมส่วนและวีเชฟได้ไม่ยาก
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับโครงสร้างใบหน้าของคนเรากันก่อน โครงสร้างกระดูกเป็นส่วนที่อยู่ลึกที่สุด ส่วนที่ทำให้หน้าของเราเล็กหรือใหญ่ จะเป็นส่วนที่เรียกว่า Lower face ซึ่งเริ่มจากจุดกึ่งกลางที่ต่ำที่สุดของจมูก มาที่จุดต่ำสุดของคาง ต่อมาจะเป็นมัดกล้ามเนื้อที่อยู่บนใบหน้า จากนั้นจะเป็นชั้นไขมัน ซึ่งจะมีลักษณะการวางตัวของไขมันตามจุดต่างๆ หรือที่เราเรียกว่า Facial Fat Pad จะทำให้ผิวของเราดูเต็มขึ้น และชั้นนอกสุดเป็นชั้นผิวหนัง ซึ่งเมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังของคนเราก็จะหย่อนคล้อยไปตามแรงโน้มถ่วงนั่นเอง
สิ่งที่ทำให้หน้าใหญ่ หน้าบานมีอยู่ 2 ปัจจัยใหญ่ๆ คือ
วิธีการปรับรูปหน้า เพื่อแก้ไขหน้าใหญ่ หน้าบานทำได้หลายวิธีดังต่อไปนี้ค่ะ
3. การฉีด Meso Fat และการดูดไขมันบริเวณคางหรือเหนียง นี่เป็นปัญหาในส่วนของชั้นใขมัน โดยปกติบนใบหน้าของเราจะมีแผ่นไขมันที่วางอยู่ในแต่ละจุดของผิวหน้า (Facial Fat Pad) ซึ่งมีส่วนทำให้ผิวของเราดูเต็มขึ้น ในกลุ่มคนที่อ้วน จะมีชั้นไขมันในปริมาณมาก ในทำนองเดียวกัน คนที่ผอมหรือเมื่ออายุมากขึ้น ชั้นไขมันก็จะแฟ้บลง สำหรับคนที่ต้องการลดปริมาณของไขมันบริเวณนี้เพื่อให้หน้าดูเรียวขึ้น ก็จะต้องเอาไขมันที่อยู่กรอบหน้าและบริเวณขากรรไกรล่างออก ซึ่งจะทำให้มองเห็นกรอบหน้าชัด ทำให้หน้าดูมีสัดส่วนมากขึ้น แต่ถ้าหากมีไขมันพอกบริเวณหน้า คอ คาง เหนียง หน้าก็จะดูอ้วนขึ้น เพราะฉะนั้นการกำจัดไขมันบริเวณแก้มที่เป็นที่นิยมกัน โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น ก็คือการฉีด Meso Fat เพื่อลดขนาดแก้ม น้ำยาที่อยู่ใน Meso Fat จะเข้าไปทำให้โมเลกุลของไขมันมีขนาดเล็กลง หลังจากนั้นร่างกายของเราจะดูดซึมตัวยาดังกล่าวแล้วเผาผลาญออกมา ส่วนตัวยามีหลายแบบ แล้วแต่จะเลือกใช้ แต่จะมีผลข้างเคียงตามมา เนื่องจากมีน้ำยาของ Meso Fat บางประเภทที่ทำลายคอลลาเจนใต้ผิว เมื่อฉีดไปแล้ว หน้าอาจจะดูเล็กลงจริงๆ แต่อาจจะมีปัญหาเรื่องผิวหย่อนคล้อยตามมา และอีกหนึ่งปัญหาสำหรับหลายคนคือ เมื่อฉีด Meso Fat ร่างกายอาจไม่ดูดซึมตัวยาที่ฉีดเข้าไป เมื่อโมเลกุลไขมันแตกตัวแล้วก็จะอยู่ที่เดิม หน้าอาจจะเล็กลงแต่ไม่นานหน้าก็จะกลับมาสู่สภาพเดิมอีก สำหรับที่นารดาคลินิก หากเราพบว่าหน้าของลูกค้ามีไขมันพอกบริเวณกรอบหน้า หรือใต้คาง เราจะใช้วิธีการดูดไขมันออก พร้อมกับการทำเลเซอร์ ใช้เทคโนโลยีBodytite กระชับกรอบหน้า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เนื่องจากการดูดไขมันเป็นการผ่าตัดเล็ก ซึ่งจะมีแผลข้างละประมาณ 3-4 จุด โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินผิวหน้าก่อนทำ พร้อมกำหนดจุดที่ต้องการเอาไขมันออก เพื่อให้เห็นกรอบหน้าที่ชัดเจนและสมส่วนมากขึ้น
4. เราว่ากันด้วยเรื่องปัญหาที่เกี่ยวข้องกับกระดูก กล้ามเนื้อ ชั้นไขมันไปแล้ว มาถึงชั้นนอกสุดของผิวหน้าเรา นั่นก็คือผิวหนัง ปัญหาส่วนใหญ่ที่พบคือความหย่อนคล้อยของผิว เมื่ออายุยังน้อย หน้าอาจจะเป็นตัววี แต่เมื่ออายุมากขึ้น ผิวก็จะคล้อยลงตามแรงโน้มถ่วง จนกลายเป็นรูปตัวยู ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินผิวหน้าของลูกค้าก่อนว่ามีความหย่อนคล้อยที่ชั้นไหนของผิว เพื่อเลือกการรักษาที่เหมาะกับอาการและให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจมากที่สุด ส่วนวิธีการรักษาก็มีหลากหลาย เช่น การทำเลเซอร์ การทำ HIFU เทคโลยี RF (Radio Frequency) เทคโนโลยี Bodytite การร้อยไหมเพื่อยกกระชับผิว เป็นต้น
วิธีประเมินว่าผิวของเรามีลักษณะหย่อนคล้อยหรือไม่ ทำได้ด้วยตัวเองก่อนมาพบแพทย์ คือให้ลองยกจุดด้านหน้า บริเวณหู กรอบหน้าด้านข้าง จะเห็นได้ว่าเวลายกจุดดังกล่าวหน้าจะเปลี่ยน หลายคนมีร่องแก้ม แต่พอยกหน้าร่องแก้มหาย นั่นแสดงให้เห็นว่าหน้าเราเริ่มมีปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อยแล้ว ซึ่งปกติความหย่อนคล้อยจะเกิดขึ้นช่วงแก้มบนกับแก้มล่าง ในส่วนของแก้มบน เราสามารถลองประเมินด้วยการดึงบริเวณกรอบหน้าข้างหูดู ส่วนแก้มล่างให้ดึงที่กรอบหน้าต่ำลงมาเพื่อดูการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ถ้าลองดึงแล้ว มีการยกของผิว แสดงว่าผิวของเรากำลังหย่อนคล้อยค่ะ สามารถเข้ามารับคำแนะนำจากแพทย์เพื่อการรักษาต่อไป
โดยสรุป ปัญหาหน้าบาน หน้าใหญ่สามารถแก้ไขได้ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย แต่สิ่งสำคัญคือจะต้องมีการประเมินว่ามีสาเหตุมาจากอะไร กระดูก กล้ามเนื้อ ไขมัน หรือชั้นของผิวหนัง ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจเกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน และนอกจากหน้าบานหน้าใหญ่แล้ว จะต้องมีการพิจารณาด้วยว่ามีความหย่อนคล้อยร่วมด้วยหรือไม่ เพื่อการแก้ปัญหาที่ตรงจุด หน้าได้รูปสวยมากยิ่งขึ้น